Skagway

Skagway

   

          สกั๊กเวย์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักแสวงโชคจากการขุดทองที่เปี่ยมไปด้วย ความหวังนับพ้นว่าที่นี่เป็นประตูที่จะน่าพวกเขาไปสู่โชคและความร่ำรวยในทุ่งทอง แม้ว่าที่นี่จะเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดแต่การเดินทางไปยังทุ่งทองโคลนไดก์ (THE KLONDIKE) นั้นไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด เริ่มตั้งแต่ปี 1897 ทั้งเส้นทางไว้ท์ พาส (THE WHITE PASS) ที่ผ่านไปทางภูเขาโคสต์ (THE COAST MOUNTAINS) และเส้นทางชิลคูต (CHILKOOT TRAIL) ที่สั้นแต่ล่ำบากกว่าถูกนักแสวงโชคใช้เป็นเส้นทางผ่านจนนับครั้งก้นไม่ถ้วน ในเส้นทางชิลคูตที่แสนหฤโหดนั้นมีแต่ความยากล่าบาก จนผู้คนที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ต้องอาชีวิตไปทิ้งไว้หลายต่อหลายราย
          ยุคตื่นทอง (THE GOLD RUSH ERA) ท่ำให้สกั๊กเวย์มีความส่าคัญมากขึ้น ตั้งแต่ปี 1889 ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน   อลาสก้า ด้วยจ่านวนพลเมืองเกือบ 20,000 คน โรงแรมในตัวเมือง บาร์เหล้า โรงเต้นร่า บ่อนการพนัน ล้วนช่วยกันแต่งแต้มให้เมืองนี้คึกคักมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ยังไม่รวมอีกกว่า 10,000 ชีวิต ที่กางกระโจมอยู่รวมกันที่ชุมชนเดีย (DYEA) ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้น แต่เมื่อปริมาณทองค่าที่ขุดค้นกันได้มีจ่านวนลดน้อยลงในราวปี 1900 พลเมืองเหล่านั้นของสกั๊กเวย์ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักขุดทองก็ได้พากันอพยพย้ายที่ท่ากินกันใหม่อย่างรวดเร็วไปสู่เมืองโนม (NOME) สกั๊กเวย์ในวันนี้ แม้มีผู้อยู่อาศัยกันน้อยกว่า       จ่านวน พันแต่พวกเขาก็ยังคงช่วยกันรักษาสภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาไว้เหมือนเมื่อครั้งยังเป็นยุคตื่นทอง โดยเฉพาะบนถนน บรอดเวย์ (BROADWAY) ที่บ้านเรือนทุกหลัง ยังคงอยู่ในรูปแบบเก่าอันเป็นเอกลักษณ์แห่งยุคสมัย และที่พิพิธภัณฑ์แห่งวิถีชีวิตยุคปี1898 (THE TRAIL OF ’98 MUESUM) ที่ได้รวบรวมสิ่งของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย

Follow us on

CONTACT on LINE